วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สมุนไพรแก้หวัด

ขิงจัดเป็นสมุนไพรแลเครื่อเทศใกล้ตัว มีกลิ่นหมอเป็นเอกลักษณ์ ให้รสเผ็ดอุ่น สรรพคุณร้อยแปด อีกทั้งอาหารคาว-หวาน ถ้ามีขิงเป็นตัวชูรสอยู่ด้วยแล้ว รับรองมื้อนั้น ๆ สุดแสนจะโอชะ...




สรรพคุณของขิงนั้นมีมาก อาทิ ช่วยขับเหงื่อ มีฤทธิ์ แก้หวัดเย็น (หวัดเย็น คือรู้สึกหนาว มีไข้ต่ำ ไม่ค่อยมีเหงื่อออก มีเสมหะมักเหลวใส) ยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด และข้ออักเสบได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจอีกด้วย


ตั้งแต่โบราณกาลมา แพทย์จีนมักจะใช้ประโยชน์จากขิงสดและขิงแห้งในแง่มุมที่ต่างกัน โดยจะใช้ขิงแห้งในภาวะที่ขาดหยาง (คือภาวะที่ร่างกายมีอาการเย็น หนาวง่าย ทนต่อความเย็นได้น้อย และการย่อยอาหารไม่ดี) ส่วนขิงสดจะใช้ได้ในจุดมุ่งหมายที่จต้องการกำจัดพิษที่เกิดจากการติดเชื้อภายในร่างกาย โดยการขับพิษออกมาทางเหงื่อ และขิงสดยังช่วยปรับสภาพในภาวะร่างกายที่มีอาการเย็นได้เช่นเดียวขิงแห้ง ถ้าเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน โดยใช้ขิงสดสับให้ละเอียดต้มดื่มในขณะที่ท้องว่างก็ช่วยละอาการได้


ช่วงฝนพรำ สภาพอากาศเปลี่ยนและชื้น ๆ แบบนี้ เมื่อเริ่มจะรู้สึกเซื่อง ๆ เฉื่อยชา หนาว ๆ มีน้ำมูกไสไหลจี๊ด ๆ หรือเริ่มมีเสมหะ ก็อย่าได้ชะง่าใจ ขอให้รีบต้มน้ำขิงแจกกันดื่มเลยครับ


ขอเสนอสูตรน้ำขิงแก้หวัด ดังนี้


ใช้ขิงแบบไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป เพราะขิงอ่อนต้มแล้วไม่หอม ส่วนขิงแก่แบบหง่อมงั่กไปนั้น ต้มแล้วทั้งเผ็ดและร้อน และควรเลี่ยงการใช้ขิงที่ซอยขายสำเร็จ เพราะมักจะใส่สารฟอกขาวจำพวกซัลไฟต์ ซึ่งจะทำให้ขิงมีสีสวยดูน่าหม่ำ แต่อันตรายมากจากสารเคมีดังกล่าว นำขิง จำนวน 1 แง่ง (ยาวประมาณ 4-5 นิ้ว) นำมาล้างให้สะอาดสุดสุด แล้วปอกผิวออก หั่นเป็นท่อน ๆ ยาวประมาณนิ้วหัวแม่มือ ต้มด้วยน้ำสะอาด 8 ถ้วยกาแฟ ให้เดือดพล่าน พอน้ำเดือดปุด ๆ แล้วให้ผ่อนไฟลงเป็นไฟอ่อน จากนั้นบุบขิงที่หั่นไว้ให้แตกแล้วหย่อนลงน้ำร้อนนั้น ต้มต่อไปไม่เกิน 10 นาที (ถ้าต้มไฟแรงจัด ๆ หรือต้มนานจนเกินไปกว่านี้ ความร้อนจะทำให้สารสำคัญบางอย่างที่ออกฤทธิ์รักษาอาการปวดข้อสลายตัวไปได้ และกลิ่นหอมของขิงซึ่งเกิดจากนำมันหอมระเหยก็จะระเหยไปด้วยเช่นกัน) เนื้อขิงจะลอยขึ้นมา ให้ไส่น้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลทรายแดงธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ แบบที่ไม่ผ่านการฟอกสี 1 ช้อนโต๊ะพูน แต่ถ้าชอบหวาน เติมทีหลัก็ได้ ไส่แล้วดับไฟ คนจนน้ำตาลละลาย จะได้กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยจากขิง ซึ่งจะลอยอบอวลจนเกาะติดจมูกเลยทีเดียว จากนั้นให้รีบกรองเอากากขิงออก อย่าปล่อยหรือแช่ทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้น้ำขิงมีรสเข้มข้นเกินไป การดื่มน้ำขิงที่มีรสเข้มข้นหรือจัดจนเกินไป จะลดการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งจะทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ อีกทั้งอาหารก็จะไม่ย่อยได้



ต้มเสร็จแล้วกรองใส่เหยือกแก้วไว้ดื่มหรือจิบตอนอุ่นจัด ๆ ถ้าไข้หวัดเล่นงานให้จิบวันละ 3 ครั้ง หลังอาหารไปแล้วครึ่งถึง 1 ชั่วโมง ดื่มเพียงครู่เดียวจะได้ยินเสียงเรอเอิ๊ก ๆ หรือปุ้ง ๆ กันเลยที่เดียว